การเตรียมพร้อมทางการเงินเพื่อการเกษียณเป็นสิ่งสำคัญที่หลายคนอาจมองข้าม การคำนวณเป้าหมายการออมเป็นขั้นตอนสำคัญเพื่อให้คุณสามารถรักษาคุณภาพชีวิตที่ดีหลังเกษียณได้
เริ่มจากการประเมินค่าใช้จ่ายหลังเกษียณ
- ประมาณค่าใช้จ่ายรายเดือนที่คุณจะใช้ เช่น ค่าอาหาร ค่าเดินทาง ค่าเช่าบ้านหรือค่าผ่อนบ้าน
- คำนึงถึงค่าใช้จ่ายทางสุขภาพ และกิจกรรมสันทนาการที่อาจต้องใช้เงินเพิ่มขึ้น
วิธีการคำนวณเป้าหมายการออม
- สูตรคำนวณ: เป้าหมายเงินออม = ค่าใช้จ่ายรายเดือนหลังเกษียณ x 12 เดือน x จำนวนปีที่คาดว่าจะใช้เงินหลังเกษียณ
- ใช้สูตรนี้เพื่อวางแผนการออมสะสม ตัวอย่างเช่น หากคุณต้องการมีรายได้ 30,000 บาทต่อเดือนหลังเกษียณ 30 ปี ค่าครองชีพทั้งหมดจะเท่ากับ 30,000 x 12 x 30 = 10,800,000 บาท
การลงทุนเพื่อเพิ่มมูลค่าเงินออม
- พิจารณาการลงทุนในกองทุนรวม พันธบัตร หรือหุ้นที่มีความเสี่ยงต่ำ-ปานกลาง เพื่อให้เงินออมเพิ่มมูลค่าไปตามเวลา
การมีประกันชีวิตและประกันสุขภาพที่ครอบคลุมเป็นส่วนสำคัญในการเกษียณที่มั่นคง เพราะจะช่วยลดความเสี่ยงด้านค่าใช้จ่ายที่อาจเกิดขึ้นเมื่อสุขภาพไม่แข็งแรงในวัยเกษียณ
ทำไมควรมีประกันชีวิตสำหรับวัยเกษียณ
- ประกันชีวิตช่วยให้คนในครอบครัวมีความมั่นคงทางการเงิน หากมีการจากไปอย่างไม่คาดฝัน
- สามารถเลือกแบบประกันที่ให้ผลประโยชน์การจ่ายเงินเป็นงวดในระยะยาว เพื่อให้มีรายได้เสริมในช่วงเกษียณ
สร้างงบประมาณ
- แบ่งเงินที่ได้มาออกเป็นส่วนสำหรับการเก็บออม เช่น 20% ของรายได้ประจำให้ไปอยู่ในบัญชีออมทรัพย์หรือบัญชีลงทุน
- ใช้แอปพลิเคชันในการติดตามค่าใช้จ่ายและการเก็บออม เพื่อให้คุณเห็นภาพรวมของการเงินได้ชัดเจนยิ่งขึ้น
ประกันสุขภาพที่ครอบคลุม
- การประกันสุขภาพเป็นสิ่งสำคัญสำหรับการเกษียณ เนื่องจากค่าใช้จ่ายทางการแพทย์อาจสูงขึ้นตามวัย
- แนะนำให้เลือกประกันสุขภาพที่ครอบคลุมค่ารักษาพยาบาล ค่ายา และการผ่าตัด พร้อมทั้งการรักษาที่ต่อเนื่อง เช่น กายภาพบำบัด
เลือกแผนประกันที่เหมาะสม
- ควรเลือกแผนประกันที่เหมาะสมตามความเสี่ยงและความต้องการ เช่น ประกันชีวิตแบบออมทรัพย์เพื่อให้มีการสะสมทุนสำหรับวัยเกษียณ
- การเลือกเบี้ยประกันที่เหมาะสมช่วยให้คุณสามารถจัดการค่าใช้จ่ายได้ง่ายขึ้น
หลายคนต้องการทำกิจกรรมที่เสริมรายได้ในช่วงเกษียณ เพื่อให้มีความมั่นคงและคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น นี่คือตัวเลือกการสร้างรายได้เสริมที่น่าสนใจ
การเป็นที่ปรึกษาอิสระ (Freelance Consultant)
- ใช้ประสบการณ์และความเชี่ยวชาญในการทำงานเดิม เช่น การเป็นที่ปรึกษาด้านการเงิน หรือการจัดการธุรกิจ
- อาจทำงานผ่านการสอนออนไลน์ การจัดสัมมนา หรือให้คำปรึกษาตามคำเชิญ
การปล่อยเช่าทรัพย์สิน
- หากคุณมีทรัพย์สิน เช่น อสังหาริมทรัพย์ที่ไม่ได้ใช้งาน การปล่อยเช่าบ้าน หรือคอนโดมิเนียม เป็นวิธีที่ช่วยสร้างรายได้เสริมที่มั่นคง
- สามารถใช้บริการแพลตฟอร์มออนไลน์เพื่อโปรโมตและหาผู้เช่าได้ง่าย
การลงทุนในสินทรัพย์ที่ให้ผลตอบแทนแบบ Passive Income
- ลงทุนในกองทุนรวมที่ให้ปันผล หรือพอร์ตการลงทุนที่เน้นการกระจายความเสี่ยง
- เลือกกองทุนอสังหาฯ หรือหุ้นที่มีปันผลดี เพื่อให้มีรายได้เป็นระยะโดยไม่ต้องทำงานเพิ่มเติม
การขายงานฝีมือหรือผลิตภัณฑ์ออนไลน์
- หากคุณมีทักษะงานฝีมือ เช่น การเย็บปักถักร้อย การทำเครื่องประดับ หรือการทำของที่ระลึก สามารถสร้างรายได้เสริมจากการขายออนไลน์
การสร้างรายได้เสริมหลังเกษียณไม่เพียงช่วยให้มีรายได้ที่มั่นคง ยังช่วยให้คุณรู้สึกมีคุณค่า และรักษาสุขภาพจิตใจที่ดีตลอดช่วงชีวิตที่เกษียณครับ